1.Canon 5Ds

Canon มักสร้างความเหนือชั้นให้กับวงการการถ่ายภาพให้ได้ตื่นเต้นเสมอมากับความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีล้ำสมัยที่มีในกล้องถ่ายภาพรุ่นใหม่ๆมาในครั้งนี้ก็เช่นกันกับข่าวคราวที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะถึงกล้องที่จะใช้เซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรมความละเอียดสูงเกิน 30 ล้านพิกเซล หรือมากว่าขึ้นไปเทียบชั้นกับกล้องมีเดียมฟอร์แมตทีเดียวนั้นจึงสร้างความฮือฮาไม่น้อยเมื่อวาระแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึง

EOS 5DS กล้องระดับ Professional ที่กำเนิดมาเพื่อสร้างความเป็นที่สุดในเรื่องของความละเอียด ความคมชัดให้กับวงการกล้องถ่ายภาพขนาด35มม.ซึ่งเมื่อวันเปิดตัวได้มีออกมาด้วยกันเป็นฝาแฝดคือ EOS 5 DS และ EOS 5DS R ให้ความละเอียดสูงสุดที่ 50.6 ล้านพิกเซลด้วยเซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรมความแตกต่างคือรุ่นที่ต่อท้ายด้วย R นั้นจะCancelation Optical Low-pass Filter จึงช่วยทำให้ภาพมีความคมชัดสูง เก็บรายละเอียดได้มากยิ่งขึ้นการเลือกใช้ชิปประมวลผลจึงพัฒนาให้เป็น Dual DIGIC 6 เพื่อประมวลผลรายละอียดไฟล์อันมหาศาลให้มีความรวดเร็ว และพัฒนาระบบกลไกของชุดยกกระจกสะท้อนภาพใหม่ลดแรงกระแทกและเสียงที่เกิดขึ้นให้ลดลงเพื่อให้มีผลต่อการเกิดความสั่นไหวในภาพน้อยที่สุดที่จะเป็นไปได้ EOS 5 DS ขึ้นโครงสร้างให้แข็งแรงแน่นหนาด้วยวัสดุจากแม็กนีเซียมอัลลอยด์มีการซีลกันน้ำและฝุ่นละอองอย่างดีเยี่ยมเสริมส่วนฐานให้แน่นหนาด้วยโลหะเพื่อให้เสถียรเวลาเชื่อมต่อการใช้งานกับขาตั้งกล้อง ตัวบอดี้โดยรวมมีขนาดใหญ่แต่ออกแบบวางตำแหน่งปุ่ม และแป้นต่างๆให้ลงตัวตามรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เพื่อให้ผู้ที่เคยใช้งานในรุ่นก่อนหน้านี้มีความคุ้นเคยอย่างรวดเร็วไม่ต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่มีเมนูลัดใหม่จากปุ่ม Q ที่สามารถเลือกปรับตั้งค่าต่างๆและปรับแต่งหน้าจอเมนูลัดได้ตามต้องการ EOS 5 DS ใช้จอ LCD ขนาด 3.2 นิ้วแบบ Clear View II ความละเอียด 1.04 ล้านจุด โดยมีการซีลด้วย Optical gel ระหว่างช่องว่างของจอกับกระจกด้านนอก เพื่อช่วยลดการสะท้อนแสงของจอภาพในที่กลางแจ้ง ซึ่งมีแสงรบกวนมากทำให้ช่างภาพเห็นภาพแสดงผลคมชัด และชัดเจนตลอดเวลาด้านซ้ายของจอมีปุ่มปรับเลือก Picture Style โดยในรุ่นนี้ออกแบบโทนสีใหม่ที่ชื่อว่า Fine Detail ซึ่งเหมาะกับการเก็บรายละเอียดของภาพให้คมชัดขึ้นเมื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ ภาพบุคคล หรืองานสื่อโฆษณาที่ต้องการรายละเอียดสูงๆ เป็นอย่างมาก  EOS 5 DS ติดตั้งระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ 61 จุด เป็นแบบ cross-type 41 จุดและ Double cross-type11 จุด ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์วัดแสงตัวใหม่แบบ 150,000 พิกเซล ช่วยให้การทำงานรวดเร็วแม่นยำ และละเอียดมากกว่ารุ่นเดิม มีระบบอ่านค่าไวท์บาลานซ์อัตโนมัตใหม่ AWB : White Priority ที่จะอ้างอิงสีขาวเป็นหลักแทนการคำนวณตามอุณหภูมิสีของแสงตามปกติจึงเห็นผลชัดเจนเมื่อใช้ในสถานการณ์แหล่งกำเนิดแสงเป็นแสงประดิษฐ์ หรือแสงผสมที่จะปรับให้แม่นยำไม่ติดโทนอุ่นเรียกว่าช่วยได้มากโดยเฉพาะในสถานการณ์เร่งด่วน EOS 5 DS ปรับตั้งค่าความไวแสงต่ำสุดที่ ISO100-6400 ขยายได้ถึง ISO12800 เพื่อให้รองรับกับความมหาศาลของพิกเซลที่จะส่งผลต่อขนาดไฟล์ภาพดังนั้นการถ่ายภาพต่อเนื่องก็ทำได้ที่ 5ภาพ/วินาที ซึ่งความจำเป็นที่จะนำกล้องความละเอียดสูงขนาดนี้ไปถ่ายภาพเคลื่อนไหวรวดเร็วคงไม่ใช่ทางของกล้องรุ่นนี้อยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกนำไปใช้งานแน่ๆ โดยการบันทึกภาพสามารถเก็บข้อมูลเข้าได้ 2 ช่อง (Dual Card Slots) คือ CFและ SD Card เลือกได้ตามความสะดวกแต่สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงน่าจะเป็นความเร็วในการเขียนและอ่านข้อมูลของการ์ดเพื่อทันต่อการบันทึกภาพเฟรมต่อเฟรมไม่เกิดอาการสะดุดกลางคันโดยเฉพาะการใช้ RAW File ถ่ายภาพ  EOD 5DS เลือกปรับอัตราส่วนของภาพเป็น 1.3 หรือ 1.6 ได้ในเมนู Crop Shooting โดยยังคงแสดงพื้นที่พิกเซลที่มากถึง 30.5 และ 19.6 ล้านพิกเซล ตามลำดับด้วยเลนส์ตัวเดิมคุณจะได้มุมมองภาพเหมือนเป็นการซูมเข้าใกล้วัตถุเพิ่มขึ้น รองรับทั้งการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวกับความละเอียดระดับ Full High Definition(FHD) ซึ่งฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้คุณเหมือนมีเลนส์หลายช่วงแม้จะใช้กล้องคู่กับเลนส์เพียงตัวหนึ่งตัวใดก็ตาม อ้างอิง   https://www.bigcamera.co.th/bcarticle/articleitem/view/id/240/